วันนี้ได้มีโอกาสได้เข้าไปดูหนังที่ว่าด้วยมนุษย์ต่างดาวมาในรูปแบบเกม 8bit ถล่มโลก เรื่อง “Pixels” นำแสดงโดยเจ้าเกมสุดคลาสสิค ตั้งแต่ยุคตอนผมยังเด็ก เช่น Pac-Man ,Donkey Kong ,Galaga และเกมอื่นๆอีกมากมาย ใครที่โดยเจ้าเกมพวกนี้โจมตี จะแตกสลายกลายเป็นบล็อค 8bit ทันที
เนื่องจากหนังเข้าฉายมาซั กระยะหนึ่งแล้ว แต่เหตุที่ผมเพิ่งเดินเข้าไปดู เพราะ วันพุธเป็นวันที่หนังถูกสัสๆ สนนราคาที่ที่นั่งละ 100 บาท ไม่เข้าใจทำไมเดี๋ยวนี้ดูหนัง ราคาแม่งแพงจัง ทั้งๆที่หนังแม่งก็ไม่ได้ยาวขึ้น หรือ โรงหนังมีเบาะเลื่อมทอง ดูที่นี่ลมจับ ถ้าเจอคอมโบ ป๊อปคอร์น+น้ำอัดลม ไปอีกละก้อ เรียบร้อย วันนั้นทำงานฟรีไปเลย 1 วัน
ตัวหนัง "Pixels" โดนวิจารณ์อย่างหนักหน่วง ราวกับว่ามึงติดทีมชาติฟุตบอล แล้วติดเก๊ก ไปเล่นนอกเกมใส่คู่แข่ง เหมือนนักกีฬาบางชาติชอบทำ ทั้งโซเชี่ยลไทยและเทศ ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า "หนังไม่ได้เรื่อง" คะแนนต่ำเตี้ยเรี่ยดิน แต่ผมเป็นพวกอินดี้ ศรีภิญโญ (นั่น แดนนี่ ศรีภิญโญ อิสัส) เป็นพวกไม่เชื่อใครง่ายๆ ถ้ าไม่ได้ดูด้วยตาตัวเองก็ไม่ปักใจเชื่อ คนอื่นว่าไม่ ผมว่าใช่ นี่แหละสไตล์ผมละ ฮาฮ่า
ตัวหนัง "Pixels" โดนวิจารณ์อย่างหนักหน่วง ราวกับว่ามึงติดทีมชาติฟุตบอล แล้วติดเก๊ก ไปเล่นนอกเกมใส่คู่แข่ง เหมือนนักกีฬาบางชาติชอบทำ ทั้งโซเชี่ยลไทยและเทศ ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า "หนังไม่ได้เรื่อง" คะแนนต่ำเตี้ยเรี่ยดิน แต่ผมเป็นพวกอินดี้ ศรีภิญโญ (นั่น แดนนี่ ศรีภิญโญ อิสัส) เป็นพวกไม่เชื่อใครง่ายๆ ถ้
ในโรงค่อนข้างจะมีคนมาดูกันแน่ น ขนาดผมดูรอบสามทุ่ม ก็ยังมีคน แสดงว่า คนไทยอินดี้ ไม่เชื่อกระแสคำวิพากษ์วิจารณ์ ก็ยังมีอยู่เหมือนกัน หรือ คนไทยส่วนใหญ่แม่งเป็นพวก "ไม่เห็นโรงศพไม่หลั่งน้ำตา" ก็ไม่รู้
ตัวหนังไม่มีอะไรมาก ขอข้ามไปเลยละกัน เพราะเว็บอื่นป่านนี้แม่งรีวิวกันไปถึง Pixel ภาค 8 แล้วมั้ง ผมขอข้ามๆไปละกัน (ผิดหรอไม่มีปัญญาดูหนังรอบแรกวันแรก ห่านก็ตั๋วแม่งแพงนิ) ส่วนที่ชอบในหนังเรื่องนี้ เลยคือ CG ทำดีมาก ตื่นเต้นที่ได้เห็นตอนแรก หลังๆเริ่มชินตา รู้สึกเบื่อๆ เหมือนกัน แต่ตัว CG ก็เก็บรายละเอียดดีมาก ทุกอย่างที่จากนอกโลก จะเป็นสี่เหลี่ยมๆ เหมือน 8bit ควันไฟ ระเบิด ถ้าเกิดจาก มะนาวต่างดุดทำละก็ จะเป็น 8bit ทั้งหมด แล้วตัวหนังยังสอดแทรกมุ ขตลกแบบจิกกัด ลงไปเป็นระยะ เรียกเสียงหัวเราะได้ประมาณหนึ่ง
หนังโดยรวมแล้วก็เป็นไปตามคำวิ จารณ์แหละครับ คือหนังทำออกมาไม่ดีเท่าไร แม้ CG และ มุขตลกจะเรียกเสียงฮาได้บ้าง แต่ถ้าคนที่มาดูเป็นเด็กรุ่ นใหม่ๆ หรือคนที่ไม่รู้จักเกมคลาสสิ คพวกนี้แล้ว จะขาดอารมณ์ร่วมไปเยอะ พอดีผมเกิดทันเกมพวกนี้พอดี เลยพอจะชี้นิ้ว แสดงให้คนในโรงรู้ว่า เอ้ยกูรู้จักตัวพวกนนี้นะ อีกอย่างตัวหนังก็เล่าเรื่ องธรรมดา ขนาดตอนสู้กับบอสยังไม่พีคเท่ าไร ชนะไปอย่างง่ายๆ ฉะนั้น เรื่องนี้ ส่วนตัวผมแล้ว ให้คะแนน 5.5/10 ครับ
แต่ประเด็นมันไม่ใช่หนังสนุกหรื อไม่สนุก ประเด็นมันอยู่ที่ว่าคนดูหนั งเรื่องนี้ได้อะไรกลับไป เขียนมายืดยาว แทบจะหมดกระดาษ A4 เพิ่งจะเข้าเรื่อง
ย้ำนะครับว่านี่เป็นความคิดส่ วนตัวของคนอายุ 31 ขวบ ที่เกิดทันพอจะรู้จักและเล่ นเกมพวกนี้ เกมที่ออกมาถล่มโลกในหนังเรื่อง "Pixels" มีทั้งเกมที่ผมรู้จักดี จำชื่อได้ว่าชื่อเกมอะไร เกมที่เคยเล่นแต่จำชื่อเกมไม่ ได้ และเกมที่ไม่รู้จักเลยก็มี
หนังเรื่องนี้เหมือนเป็นไทม์ แมชชีน ที่ขี่โดย อดัม แซนด์เลอร์ ที่ขับพาผมย้อนเวลาไป ยี่สิบกว่าปีที่แล้ว กลับไปสู่ห้วงความทรงจำระยะยาว ที่เหมือนจะหล่นไปอยู่ในก้นเหวรอวันสลาย เหมือนในเรื่อง “Inside Out” แต่อยู่ๆ เฮียอดัม ก็กระโดดใส่เกลียวซัมเมอร์ซอลท์ลงไปก้นเหว ไปเก็บความจำอันนั้นมาคืน เก็บเข้าชั้นในสมองอีกครั้ง
ความจำที่ว่าก็คือ ความจำสมัยเด็กที่ตอนนั้นยังไม่ ต้องคิด ต้องเคียด ต้องทำงานหนัก เพื่อความอยู่รอดในสังคมที่เร่งเร้า เร่งรีบ เหมือนโลกจะแตกในอีกไม่กี่วัน สิ่งที่ต้องทำตอนนังเด็กนั้น มีอย่างเดียว คือพยายามเคลียร์ เกมที่กำลังเล่นตรงหน้าให้ผ่านด่านไปให้ได้
เกมสมัยนั้นยอมรับเลยว่ายากมาก เกินความสามารถเด็กติดเกมอย่ างผม ยิ่ง เกม Pac-Man นี่ไม่ง่ายนะ เกมที่ดูเหมือนไม่มีอะไร แต่ ยากหาฉิบไม่เจอเลย ฉิบหาย (มุขพ่องอะไรเนี่ย)
แต่เป็นเด็กไม่ต้องคิดอะไร ไล่กินผีไปเรื่อย ไล่เอาฆ้อนตีเจ้าลิงดองกี้ ช่วยเจ้าหญิง ขี่จักรยานส่งหนังสือพิมพ์หนี หมา หลบท่อ บางทีก็กลายเป็นกบ กระโดดหาทางกลับบ้าน วันไหนเบื่อๆก็สวมวิญญาณเพชรฆาต ยิงเป็ดให้หมาวิ่งไปคาบมาให้ (บทบาทเหล่านี้ถูกใส่เป็นตั วประกอบอยู่ในหนังเรื่องนี้) ดูแล้วนึกถึงวันเวลาเก่า ที่เคยลืมไปแล้ว
ก่อนเข้าไปดูหนังเรื่องนี้ รู้สึกว่าชีวิตช่วงนี้ทำงานเหนื่อย หมดพลัง ง่วงอยากกลับบ้าน แต่พอได้ระลึกความหลังไปกับหนังเรื ่อง "Pixel" ก็ยิ้มขึ้นมา นึกถึงถึงเวลาวันเก่าๆ สมัยเด็ก ว่าตัวเราสนุกกับเกมพวกนี้แค่ ไหน เครียดที่ผ่านด่านไม่ได้ แต่ก็ไม่ต้องเก็บมาคิดว่ าจะทำอย่างไรต่อ ไม่เหมือนทุกวันนี้ ที่ยังคงเล่นเกมอยู่ แต่เป็นเกมที่ชื่อว่า "เกมชีวิต" เป็นเกมที่โหดยิ่งกว่า "ฮังเกอร์เกม" ซะอีก ถึงแม้จะไม่มีการวิ่งเอาธนูไล่ยิงกัน เอาดาบมาแบะหัวกัน แต่เกมชีวิตก็โหดไม่แพ้กัน ต้องสู้กับ คน สัตว์ สิ่งของ ที่เดาไม่ได้ และก็ไม่มีสูตรโกงให้ผ่านไปได้
เล่นเกมชีวิตไม่ผ่านด่าน ไม่ใช่แค่ปิดเครื่อง หรือกด ขึ้นๆ ลงๆ ซ้าย ขวา ซ้าย ขวา เอ บี สตาร์ท แล้วจะเก่งขึ้นสามารถฝ่าฟันผ่ านไปได้ วันไหนไม่ผ่านด่านเจอปัญหา ต้องเอากลับมานอนคิดให้ปวดหัว ถึงขั้นนอนไม่หลับก็มี
แต่ถึงอย่างนั้น พอนึกย้อนกลับไป เราจำเกมพวกนี้ได้แล้ว ก็ได้ข้อคิดขึ้นมาอย่างหนึ่ง คือ เมื่อเราพยายามหาทางที่จะเอาฆ้ อนไปตีเจ้าลิงดองกี้ หรือ พยายามบังคับเจ้า Pac-Man ให้สามารถกินจุดๆ ได้ครบ เกมก็จะมอบรางวัลให้เรา ให้เป็นสถิติคะแนน ที่ตั้งชื่อไว้อวดเพื่อน๐ ว่ากูเนิร์ดขนาดไหน หรือ ให้เป็นผลไม้สีสันสดใสน่ากินทั้งที่มันแดกไม่ได้ ไม่ก็ให้เป็นเจ้าหญิงแสนสวยให้ เราเอาไปเชยชม ฝันเยิ้มกันไป
กลับมาที่เกมชีวิต ขึ้นชื่อว่าเกม เมื่อผ่านด่าน ฆ่าบอสได้ มันก็ต้องมีผลตอบแทน หรือรางวัลรอเราอยู่แล้ว ขึ้นอยู่กับว่า อุปสรรคที่เราผ่านมานั้น หนักหนาแค่ไหน รางวัลที่ได้ก็จะใหญ่ตามอุปสรรคไปด้วย ตอนเด็กไม่ประสีประสา ก็ยังหาวิธีหนทางผ่านด่านเกมยากๆได้เสมอ ตอนนี้อายุเยอะ มีความคิด มีความสามารถมากขึ้น (ทั้งที่น้อยนิด) ทำไมเราจะผ่านมันไปไม่ได้ ไอ้เกมชีวิต แค่ตั้งสติ และยิ้มให้กับเกมที่ เรากำลังเล่น เกมทุกเกมมีทางออก มีบั๊ก มีลู่ทางสู้ชัยชนะเสมอ ไม่มีเกมที่ไม่มีวันไม่จบ (Game Over) เมื่อเราสามารถเคลียร์ได้แล้ว รางวัลที่ยิง่ใหญ่ะรอเราอยู่อย่างแน่ นอน
กลับมาที่เกมชีวิต ขึ้นชื่อว่าเกม เมื่อผ่านด่าน ฆ่าบอสได้ มันก็ต้องมีผลตอบแทน หรือรางวัลรอเราอยู่แล้ว ขึ้นอยู่กับว่า อุปสรรคที่เราผ่านมานั้น หนักหนาแค่ไหน รางวัลที่ได้ก็จะใหญ่ตามอุปสรรคไปด้วย ตอนเด็กไม่ประสีประสา ก็ยังหาวิธีหนทางผ่านด่านเกมยากๆได้เสมอ ตอนนี้อายุเยอะ มีความคิด มีความสามารถมากขึ้น (ทั้งที่น้อยนิด) ทำไมเราจะผ่านมันไปไม่ได้ ไอ้เกมชีวิต แค่ตั้งสติ และยิ้มให้กับเกมที่
สุดท้ายนี้ ที่ผมร่ายมายาวยืด เขียนให้คุณอ่านไม่รุ้ว่ามันจะสนุก หรือได้ข้อคิดหรือเปล่า (แต่กูคิดว่าดี ฉะนั้นมันก็ต้องดี) ผมอยากจะบอกว่า "ถึงหนังไม่สนุก แต่มันได้ช่วยให้คนอย่างผม มีกำลังใจ ที่จะหาทาง พิชิต "เกมชีวิต" ที่รออยู่ข้างหน้าได้ อีกครั้ง ยิ้มเหมือนตอนที่เป็นเด็ก เล่นเกมผ่านไปทีละด่าน โตแล้วก็ยิ้มให้กับอุปสรรค แก้กันไปทีละจุด แล้วรอรับผลตอบแทน ที่รอเราอยู่"